แม่ลูกอ่อนโคราชพาลูกน้อยร้องขอความเป็นธรรมตำรวจ หลังสามีขับแท็กซี่รับจ้างแต่ถูกจับดำเนินคดีเพราะรับผู้โดยสารแบบนำยาบ้าซุกในกระขึ้นรถโดยไม่รู้ตัวแต่ต้องมาถูกจับเข้าคุกด้วย
เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 7 มี.ค.ที่ สภ.พิมาย จ.นครราชสีมา น.ส.อนัญญา สมัยใหม่ อายุ 30 ปีพาลูกน้อยวัย 7 เดือนและวัย 6 ขวบ เดินทางมาที่ สภ.พิมาย พร้อมด้วยเพื่อนกลุ่มแท็กซี่โคราชกว่า 20 คน ขอพบพ.ต.อ.พีระวัฒน์ มงคลสวัสดิ์ ผกก.สภ.พิมาย เพื่อขอความเป็นธรรม
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 ก.พ.ผ่านมา ขณะที่ นายประสาร หรือน้อย พันธ์โคกกรวด สามี ซึ่งมีอาชีพขับรถแท็กซี่รับจ้าง รับผู้โดยสารคือ นายจักกาย หรือกาย แก้วคุณ ผู้โดยสาร มาจาก บขส.2นครราชสีมา ไปส่งที่ อ.พิมาย โดยตกลงราคากัน 700 บาท เมื่อผ่านจุดตรวจบริเวณ ถนนพิมาย- ชุมพวง(ในเขตเทศบาล) หมู่ที่ 14 ต.ในเมือง อ.พิมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจปัสสาวะ นายจักกาย พบเป็นสีม่วง จึงตรวจค้นเพิ่มเติม พบกระเป๋าเสื้อผ้า มียาเสพติดซ่อนอยู่ 1,850 เม็ด จากการสอบสวนเบื้องต้น นายจักกาย ผู้โดยสาร ให้การปฏิเสธว่าไม่ใช่ของตนเอง เป็นของใครก็ไม่รู้ เจ้าหน้าที่จึงจับจับกุมทั้งคู่ดำเนินคดี
ในเวลาต่อมา นายจักกาย ผู้โดยสาร ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ส่วนผู้ขับขี่แท็กซี่ ได้ให้การปฏิเสธ ไม่มีส่วนรู้เห็นในเรื่องดังกล่าว แต่ก็ยังถูกนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี และส่งตัวฝากขังที่ เรือนจำกลางจังหวัดนครราชสีมาจนถึงปัจจุบันก็ยังถูกคุมขับรอศาลตัดสิน แต่ด้วยที่มีฐานะยากจน จึงไม่มีเงินมาประกันตัวเพื่อสู้คดีแต่อย่างใด
น.ส.อนัญญา สมัยใหม่ แฟนสาว เปิดเผยว่า วันนี้ได้ตนการมาขอความเป็นธรรม เพราะสามีที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ต้องไปอยู่ในเรือนจำกลางจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งสามีเป็นหัวหน้าครอบครัว และมีลูกน้อยซึ่งเป็นลูกชายวัย 7 เดือน 1 คนและลูกสาววัย 6 ขวบ ส่วนตนก็เป็นพี่เลี้ยงเด็กเล็กอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา หลังจากสามีถูกควบคุมตัวทำให้ตนไม่มีเงินที่จะซื้อนมให้ลูกทั้ง 2 คนกิน สร้างความลำบากอย่างมาก อีกทั้งตนเชื่อว่าสามีไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอย่างแน่นอน เนื่องจากแฟนเป็นคนดี มีเพื่อนรักมากมาย จึงอยากขอความเป็นธรรม
ด้าน พ.ต.อ.พีระวัฒน์ มงคลสวัสดิ์ ผกก.สภ.พิมาย เปิดเผยว่า หลังจากแฟนสาวและกลุ่มเพื่อนคนขับแท็กซี่มาร้องขอความเป็น หลังจากสามีถูกจับในคดียาเสพติด ตนได้เรียกพนักงานสอบสวนและทีมชุดจับกุม มาสอบถาม ซึ่งจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ส่วนเรื่องของคดีความนั้นอยู่ในขั้นตอนของศาล ซึ่งสามารถไปขอประกันตัวในชั้นศาลได้ ซึ่งอยากให้ทุกฝ่ายเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย หากไม่มีความผิดจริงศาลก็ต้องยกฟ้องอย่างแน่นอน
ที่มา:http://www.khaokorat.com/index.php?option=com_content&view=article&id=2004%3A2016-03-07-12-26-06&catid=5%3A2012-08-08-15-06-12