สลดรับปีใหม่ น.ศ.หนุ่มวัย 15 ปี ไปเที่ยวหัวหินกับเพื่อน พลัดตกลานหิน จมทะเลหาดทรายน้อย ถูกคลื่นกลืนหายต่อหน้าเพื่อน ต้องค้นหาทั้งคืนจนมาพบศพในช่วงสายที่หน้าสำนักสงฆ์ถ้ำเขาเต่า สุดสะเทือนใจต้องร้องเรียกให้กลับบ้าน ศพถึงโผล่จากน้ำให้เจ้าหน้าที่ช่วยพาขึ้นฝั่งได้สำเร็จ ท่ามกลางความเสียใจของพ่อ-แม่และเพื่อนๆ
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 1 ม.ค. ที่บริเวณหาดทรายน้อย อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายสุทธิพงศ์ คล้ายอุดม นายอำเภอหัวหิน นำทีมค้นหานายจตุพล แสงทอง หรือแบงค์ อายุ 15 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยเทคโนโลยีรัตนโกสินทร์ หลักสี่ เดินทางมาเที่ยวหัวหินแล้วพลัดตกจากโขดหินด้านหัวหาดจมหายไปในทะเลตั้งแต่เวลา 15.30 น. ของวันที่ 31 ธ.ค. 2558
โดยระดมทีมค้นหาจากหลายภาคส่วน ทั้งตชด.ค่ายนเรศวร, ตำรวจน้ำปราณบุรี, เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างหัวหินธรรมสถาน, สว่างเมธีสามร้อยยอด ตลอดจนเจ้าหน้าที่ อส. หัวหิน รวมกว่า 50 นาย พร้อมอุปกรณ์ดำน้ำ เรือยาง และเรือเจ็ตสกี ออกระดมค้นหาในจุดที่เกิดเหตุ และพื้นที่ใกล้เคียง โดยใช้วิธีการนำเรือยางออกตรวจสอบในทะเล ไม่สามารถเข้าไปตามแนวซอกหินได้ และไม่สามารถลงน้ำได้เนื่องจากคลื่นลมทะเลมีกำลังแรง
จากการสอบถามเพื่อนที่เดินทางมาเที่ยวด้วยกันทราบว่า ทั้งหมดเดินทางมาเที่ยวหัวหินด้วยกันทั้งหมด 8 คน ตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. 2558 เพื่อหวังจะร่วมงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยพักค้างคืนในตัวเมืองหัวหิน กระทั่งเช้าวันที่ 31 ธ.ค. ได้เช่ารถจักรยานยนต์รวม 3 คัน ขับท่องเที่ยวชมเมืองหัวหิน แล้วไปที่หาดเขาเต่าจอดรถไว้ที่บริเวณด้านหน้าสำนักสงฆ์ถ้ำเขาเต่า ก่อนเดินลัดเลาะตามทางไปยังหาดทรายน้อยซึ่งมีทางเดินเชื่อมต่อกัน
จากนั้นทั้งหมดได้นั่งพักเพื่อชมความสวยงามของหาดทรายน้อย ซึ่งเป็นหาดขนาดเล็ก มีโขดหินน้อยใหญ่อยู่ด้านหัวหาดทั้งสองด้าน พร้อมถ่ายรูปเล่นเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก ในจังหวะที่น้องแบงค์ยืนหันหลังให้ทะเล เพื่อให้เพื่อนถ่ายรูปตนเองกับวิวทะเลอยู่นั้น คาดว่าอาจจะลื่นเพราะบริเวณโขดหินมีตะไคร่น้ำทะเลจับอยู่ ประกอบกับมีคลื่นทะเลซัดเอาน้ำทะเลขึ้นมาบนโขดหินอยู่ตลอดเวลา ทำให้น้องแบงค์เสียหลักพลัดตกจากลานหินลงไปในทะเล ซึ่งเพื่อนสามารถจับภาพนาทีน้องแบงค์เสียหลักได้ก่อนตกลงไปในทะเลได้เป็นภาพสุดท้าย
เพื่อนเล่าด้วยว่า แบงค์พยายามตะเกียก ตะกายเอาตัวรอดขึ้นมาหลายครั้ง แต่เมื่อขึ้นมาได้ก็ถูกคลื่นซัดกลับลงมาอีก โดยที่เพื่อนที่มาด้วยกันได้พยายามลงไปช่วยแล้วแต่ไม่สามารถช่วยเหลือได้ทัน กระทั่งถูกคลื่นทะเลกลืนหายไปต่อหน้าต่อตา เพื่อนจึงได้แจ้งขอความช่วยเหลือมาที่ศูนย์วิทยุกู้ภัยสว่างหัวหินเมื่อเวลา 15.30 น. ของวันที่ 31 ธ.ค.ที่ผ่านมา
เมื่อเจ้าหน้าที่ทั้งหมดมาถึง ได้ออกค้นหาทันที แต่พบอุปสรรคสำคัญเป็นคลื่นลมทะเลกำลังแรง ไม่สามารถดำน้ำค้นหาได้นาน หรือดำน้ำใกล้แนวโขดหินได้ เพราะจะเป็นอันตรายอย่างยิ่ง จึงทำได้เพียงกระจายกำลังค้นหาตลอดแนวชายหาดและตามโขดหิน เพราะหวังว่าจะเกิดปาฏิหาริย์ขึ้นมา น้องแบงค์อาจจะติดอยู่บริเวณใดบริเวณหนึ่ง แต่การค้นหาก็ไร้วี่แววกระทั่งเวลาเที่ยงคืนเศษวันที่ 1 ม.ค. การค้นหาจึงยุติลงและรอค้นหาอีกครั้งในช่วงเช้า โดยมีพ่อแม่ของน้องแบงค์ที่ทราบข่าวอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับบุตรชาย ได้เดินทางมาสมทบจากกรุงเทพฯ
กระทั่งช่วงสาย ศูนย์วิทยุ 191 สถานีตำรวจภูธรหัวหิน รับแจ้งจากนักท่องเที่ยวว่าพบเห็นศพลอยน้ำ ถูกคลื่นทะเลซัดเข้ามาบริเวณโขดหินด้านหน้าสำนักสงฆ์ถ้ำเขาเต่า ทีมค้นหาทั้งหมดจึงได้ย้ายจุดมาตรวจสอบในพิกัดที่ได้รับแจ้งทันที และพบว่าร่างของน้องแบงค์กำลังถูกคลื่นซัดเข้ามาทางโขดหินเป็นระยะ แต่คลื่นแรงมากจนมองเห็นไม่ถนัด และการลงไปช่วยนำร่างขึ้นมาบนฝั่งก็ทำได้ยากเพราะไม่มีพื้นที่ราบ ทำได้ด้วยการ ผูกเชือกโรยตัวลงไปเท่านั้น โดยระหว่างนั้นคลื่นได้กลืนร่างน้องแบงค์หายไปอีกครั้ง ไม่โผล่ขึ้นมาให้เห็นอีกนานกว่า 30 นาที
ด้านพ่อและแม่ของน้องแบงค์จึงได้จุดธูปบอกกล่าวว่าพ่อกับแม่มารับกลับบ้านแล้ว ขณะที่ญาติและเพื่อนต่างช่วยกันร้องตะโกนเรียกว่า "น้องแบงค์กลับบ้านเถอะลูก พ่อกับแม่มารับแล้ว กลับบ้านลูกน้องแบงค์" ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่คลื่นซัดร่างน้องแบงค์โผล่ขึ้นมาให้เห็นอีกครั้ง เจ้าหน้าที่จึงรีบนำเชือกลงไปผูกกับร่างน้องแบงค์ แล้วใช้เรือเจ็ตสกีจูงออกมาให้พ้นแนวโขดหิน มาขึ้นเรือยาง ก่อนนำเข้าฝั่งได้สำเร็จ ท่ามกลางความเศร้าเสียใจของพ่อแม่ที่เห็นศพลูกชายคนเล็กของบ้านถึงกับร้องไห้โฮออกมา
ที่มา:http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1451700405