เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 7 ต.ค. ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งจากคณะพระวินยาธิการ หรือตำรวจพระ ว่าได้ควบคุมพระสมปอง สีลธโร อายุ 62 ปี ไว้ที่วัดเขื่อนขันธ์ อ.เมืองพิษณุโลก เพื่อให้ตำรวจนำตัวไปดำเนินคดี หลังอยู่ในอาการมึนเมาสุราแล้วนั่งอยู่บริเวณสถานีรถไฟพิษณุโลก จึงเชิญตัวมาที่วัดเขื่อนขันธ์
พระมหาฐานะวะ คมฺภีรเวที (รัศมี) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร เลขานุการเจ้าคณะอำเภอเมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบหลักฐานของพระสมปอง พบเป็นหลักฐานปลอม เพราะเอกสารเดิมทางพระวินยาธิการได้ยึดไว้แล้ว เนื่องจากใบสุทธิหน้าที่ 22 ถูกฉีกหายไป ซึ่งเป็นหน้าที่สำคัญของพระสงฆ์จะบันทึกว่าพ้นจากการสังกัดวัดแล้ว สำหรับการกระทำผิดครั้งนี้คณะพระวินยาธิการ ได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ดำเนินคดี ในข้อหาแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ โดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายต่อไป
สำหรับนายสมปองที่แต่งกายเป็นพระภิกษุ ทันทีที่เดินทางมาถึงวัดเขื่อนขันธ์ มีท่าทีเอะอะ และพูดจาลักษณะคล้ายคนเมาสุรา คุยอวดตัวว่าเป็นพระที่สวดมนต์เก่ง ห้ามใครมายุ่งเด็ดขาด คณะสงฆ์ที่วัดเขื่อนขันธ์จำได้ว่าเมื่อ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา คณะพระสงฆ์วินยาธิการได้ไปตรวจสอบที่วัดยางกระใดบึงชะเรียงวนาราม ต.ท่าตาล อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก เนื่องจากมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ซึ่งทุกเช้าจะมาบิณฑบาตบริเวณตลาดใต้ ตลาดเทศบาล 1 อ.เมืองพิษณุโลกเป็นประจำ โดยจะเดินวนเวียนไปมาภายในตลาดสดนานร่วม 2 ชั่วโมง และยืนรอรับบางจุดจนได้รับสิ่งของถึงจะเดินออกไป จึงได้ทำการสึกอีกครั้ง ต่อมาเมื่อวันที่ 27 ก.ย. คณะพระวินยาธิการได้ร่วมกับตำรวจจับพระสมปอง ที่ห้องเช่าพักชั่วคราว ภายในสถานีขนส่งผู้โดยสาร อ.เมืองพิษณุโลก และมีปริมาณแอลกอฮอล์ลถึง 210 มิลลิกรัม จึงทำการสึกอีกครั้งและมาถูกคุมตัวในครั้งนี้
ชื่นชอบข่าวนี้ อยากแชร์ต่อให้เพื่อนๆ
ที่มา:http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1444229049